Last updated: 8 Jul 2023 | 298186 Views |
ชนิดของสายไฟ มีอีกเรื่องที่ชวนงงคือ สีของสายไฟ ที่มีทั้งสีเหลือง เขียว ดำ และสีอื่นๆ อีก ซึ่งคนทั่วไปไม่ได้เชี่ยวชาญงานไฟฟ้าต่างก็สงสัยว่าแต่ละสีไว้ใช้ทำอะไรบ้าง มีข้อแตกต่างอย่างไร เราจึงรวมข้อสงสัยนี้มาตอบให้กระจ่างชัดกัน
เรามาทำความเข้าใจเรื่องระบบส่งไฟแบบง่ายๆ ก่อน
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส
สายไฟในบ้าน ระบบไฟฟ้า 1 เฟส
ระบบไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปตามบ้าน เป็นกระแสสลับระบบ 1 เฟส 2 สาย แรงดัน 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ โดยสายไฟ 2 สายที่ใช้ สายหนึ่งจะมีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่หรือเรียกว่าสายเคอร์เรนต์ ( current line ) ส่วนอีกสายจะเป็นสายนิวทรัล ( neutral line ) ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ จะเห็นได้จากปลั๊กไฟตามบ้านที่มีช่องเสียบอยู่ 2 ช่อง ถ้าเอาไขควงสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้าลองวัดดูจะเห็นได้ว่าช่องหนึ่งจะมีไฟแดงปรากฏ ส่วนอีกช่องจะไม่มีไฟแดงปรากฎแสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สายเพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจร ส่วนบางแห่งที่เห็นปลั๊กไฟมี 3 ช่องนั้นยังเป็นระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟสเหมือนกัน แต่ช่องที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน ( ground ) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดินเวลาเกิดไฟรั่วเป็นการเพิ่มความปลอดภัย
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส
ระบบไฟฟ้า 3 เฟสเป็นระบบไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส 4 สาย แรงดัน 380 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ โดยที่ 3 สายจะเป็นสายที่มี กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน โดยทั่วไประบบไฟฟ้า 3 เฟสเป็นระบบที่ไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไฟฟ้าระบบนี้ไม่สามารถนำมาใช้กับระบบแสงสว่าง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าตามบ้านได้โดยตรง แต่การการนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสเข้ามาใช้ในบ้านนั้นจะนำมาแบ่งแยกให้เป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 ชุด แล้วกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้า การกระจายจุดของการใช้งานเช่นนี้ทำให้ไฟฟ้าแต่ละเฟสไม่ถูกใช้งานมาก ถือเป็นการเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้า ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้า เพราะการคิดอัตราค่าใช้ไฟฟ้าซึ่งมีหน่วยเป็น กิโลวัตต์ – ชั่วโมงจะคิดเป็นอัตราก้าวหน้า คือยิ่งมีการใช้ไฟฟ้ามากก็จะยิ่งเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้น ดังนั้นการกระจายการใช้ไฟฟ้าออกเป็น 3 ส่วน จึงทำให้การใช้ไฟฟ้าในแต่ละส่วนหรือแต่ละเฟสน้อยลง ไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูง
โดยสรุปคือ ทั้ง 2 แบบ สามารถนำมาใช้งานภายในบ้านได้เหมือนกัน หากนำ ระบบไฟฟ้า 3 เฟสมาใช้นั้นจะเสียค่าใช้จ่ายในตอนต้นค่อนข้างสูง เช่น ค่าติดตั้ง ค่าประกันการใช้ไฟฟ้า แต่สามารถประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าได้ในระยะยาว ดังนั้นควรติดตั้งกับบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างใหญ่ มีการใช้ไฟฟ้าหลายจุดและเป็นปริมาณมากถึงจะคุ้มกว่า แต่หากเป็นบ้านหรืออาคารที่มีขนาดเล็กและมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่มากควรติดตั้งระบบไฟฟ้า 1 เฟสก็เพียงพอครับ
ชนิดของสายไฟภายในบ้าน
นอกจากนี้สายไฟที่ใช้ภายในบ้านยังจำแนกประเภทได้อีก 3 อย่างหลักๆ ด้วยกัน ตามนี้เลย
สีของสายไฟเกี่ยวข้อง และแตกต่างกันอย่างไร
ที่พูดมาข้างต้นเกี่ยวข้องกับสีสายไฟแน่นอน ซึ่งขอเล่าก่อนว่าปัจจุบันสีของสายไฟได้เปลี่ยนแปลงไปตามผลบังคับใช้ มอก.11-2553 ซึ่งต้องการเปลี่ยนสีขนาดแรงดัน และชื่อของของสายให้ตรงกับมาตรฐาน IEC code ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และร่วมถึงประเทศที่อยู่นี้กลุ่ม AEC ด้วย ให้เป็นในแนวทางเดียวกัน สร้างความเข้าใจให้ง่ายมากขึ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
จากเดิม
L1 – สีดำ
L2 – สีแดง
L3 – สีฟ้า
N – สีเทา
G – สีเขียวแทบเหลือง
เปลี่ยนใหม่
L1 – สีน้ำตาล
L2 – สีดำ
L3 – สีเทา
N – สีฟ้า
G – สีเขียวแทบเหลือง
ซึ่งระบบ 1 เฟสและ 3 เฟส จะมีสีสายไฟแตกต่างกันตามนี้
ระบบ 1 เฟส
สายเฟส (L) ฉนวนเป็น สีน้ำตาล
สายนิวทรัล (N) ฉนวนเป็น สีฟ้า
สายดิน (G) ฉนวนเป็น สีเขียวแถบเหลือง
ระบบ 3 เฟส
สายเฟส (L1) ฉนวนเป็น สีน้ำตาล
สายเฟส (L2) ฉนวนเป็น สีดำ
สายเฟส(L3) ฉนวนเป็น สีเทา
สายนิวทรัล (N) ฉนวนเป็น สีฟ้า
สายดิน (G) ฉนวนเป็น สีเขียวแถบเหลือง
ทั้งนี้ การเปลี่ยน ซ่อมแซมสายไฟด้วยตนเอง ยังคงเป็นเรื่องอันตรายอยู่นัก แนะนำว่าให้ใช้ช่างผู้ชำนาญทำการเปลี่ยนให้จะปลอดภัยกว่า แต่ตอนไปเลือกซื้อก็ควรมีความรู้ไว้ติดตัวเช่นกัน
ขอบคุณบทความดีๆจากบ้านและสวน
หากมีงานปอกสายไฟ ให้นึกถึงเราค่ะ เครื่องปอกสายไฟ RAMBO เครื่องใหม่ คุณภาพดี ราคาโรงงาน มีสินค้าพร้อมส่งค่ะ
RAMBO พัฒนาเครื่องปอกสายไฟแบบไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้การปอกมีประสิทธิภาพมากที่สุด
มีสินค้าพร้อม โทร.0942969298, 0891469653